7294 จำนวนผู้เข้าชม |
คำว่าสตรีนิยม หรือที่หลายๆคนคงคุ้นกับคำว่า “เฟมินิสต์” คืออะไร? เชื่อว่าในปี 2021 หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับคำนี้กันมากขึ้น แต่ก็คงยังมีอีกหลายคน ที่ยังไม่รู้จักหรือเข้าใจถึงความหมายของความเป็นสตรีนิยมใช่ไหมคะ? จึงทำให้วันนี้ทาง Happi เตรียมบทความนี้มาให้ทุกๆคนได้อ่านกันค่ะ : )
สิทธิสตรีเกิดขึ้นได้อย่างไร?
.
.
“สิทธิสตรีนิยม” เกิดขึ้นมาจากกระแสหลักในสังคมชายเป็นใหญ่ ที่ผู้หญิงหลายคนได้รับผลกระทบจากความไม่เท่าเทียมทางเพศ จากกรอบแนวคิด “ปิชาธิปไตย” ซึ่งกรอบแนวคิดนี้ ได้กำหนดบทบาททางเพศ (Gender role) ไว้แล้ว ทำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างก็ต้องเป็นเพศในแบบที่สังคมต้องการ อีกทั้งยังถูกลดทอนความเป็นมนุษย์ ถูกควบคุมความคิดอยู่ภายในกรอบที่สังคมกำหนด แนวคิด “ปิชาธิปไตย” ส่งผลกระทบแก่ผู้หญิงและผู้ชายมาอย่างยาวนาน
ถึงแม้ว่าจะมีการขับเคลื่อนและผลักดันความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น ในยุคปัจจุบันผู้หญิงได้รับอำนาจมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าความฝังรากของสังคมชายเป็นใหญ่นั้นยังคงมีอยู่ และเพศหญิงยังถูกมองว่าด้อยกว่าเพศชายอยู่ ไม่ว่าจะทางด้านความคิด ความสามารถ สรีระ หรือแม้กระทั่งคำพูดที่ว่า “เลือดประจำเดือนเป็นของต่ำ” ก็เป็นผลกระทบมาจากแนวคิดที่ว่าสิ่งใดที่เป็นของเสียของเพศหญิงนั้น จะถือถูกทำให้กลายเป็นของต่ำไปโดยปริยาย โดยไม่ได้มีทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ใดมากำหนด เป็นเพียงมายาคติที่สังคมหล่อหลอมและส่งต่อกันมาเท่านั้นเอง
ทำไมทุกคนควรจะเข้าใจ ไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิง
.
.
เพราะความเป็นเพศที่ถูกคาดหวังจากสังคมนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบนี้ แต่ยังส่งผลกระทบต่อเพศชายด้วยเช่นกัน เมื่อมีการคาดหวังให้ผู้หญิงกระทำสิ่งใดสิ่งนึงแล้ว แน่นอนว่าขั้วตรงข้ามอย่างผู้ชาย ก็จะได้รับผลกระทบนั้นไปด้วย หากผู้หญิงถูกมองว่าอ่อนแอ ผู้ชายจะต้องเป็นเพศที่เป็นผู้นำได้ ส่งผลต่อเนื่องจนก่อให้เกิด “อคติทางเพศ” หรือที่เรียกว่า อคติที่ผู้ชายมีต่อผู้หญิง เมื่อผู้ชายมองว่าเพศหญิงด้อยค่ากว่าตนเอง จนสามารถจะกดขี่ทางความคิด ร่างกายได้ และนำมาสู่การคุกคามทางเพศ ที่ทำให้ผู้หญิงต้องรู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาเดินคนเดียวตามท้องถนน หรือแม้กระทั่งการแต่งตัวที่จะนำไปสู่ความอันตรายได้
ประเทศไทยให้ความใส่ใจมากน้อยแค่ไหน
.
.
จากกระแสการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความเป็นสตรีนิยมหลายๆครั้งที่ผ่านมา ทั้งตามสื่อออนไลน์ต่างๆ รวมถึงการชุมนุมประท้วง เชื่อว่าหลายๆก็เริ่มมีความเข้าใจ รวมไปถึงผู้ชายหลายๆคนมีคนสนใจในสิ่งที่ถูกเรียกว่าเป็นเรื่องของผู้หญิงมากขึ้น เช่น การทำเล็บ การใช้ของสีชมพู หรือแม้กระทั่งการแต่งตัว ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปในทางที่ดีในการทำลายกรอบของมายาคติเหล่านั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีอีกหลายๆคนที่ปฏิเสธและไม่ยอมรับสิ่งเหล่านี้ เป็นเพราะสังคมไทยอยู่กับค่านิยมชายเป็นใหญ่มาอย่างยาวนาน จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะเกิดความไม่เข้าใจและตั้งคำถามขึ้น
แต่เมื่อเกิดการตั้งคำถาม… จะดีกว่าไหม? หากเราลองมองย้อนกลับมาว่า ทั้งเพศชายและเพศหญิง นั้นต่างก็มีความ “เท่าเทียมกัน” และทุกคนสามารถมีความเข้าใจกันในฐานะของความเป็นมนุษย์โดยไม่มีบทบาทและอัตลักษณ์ทางเพศมากำหนดได้
อีกทั้ง หากสังคมไทยเราสามารถทำลายกำแพงปิตาธิปไตยได้ จนทำให้เพศหญิงและเพศชายมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น ทาง happi เชื่อว่าเรื่องของ “ประจำเดือน” ที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเราๆนั้นได้รับผลกระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ที่เชื่อว่าผู้ชายหลายๆคนยังคงไม่เข้าใจ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายผ้าอนามัยต่างๆ จะไม่ใช่ภาระที่ผู้หญิงต้องแบกรับเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป
สุดท้ายแล้วในฐานะที่แบรนด์ Happi Cup ให้ความสนใจและใส่ใจเรื่องผู้หญิงเป็นพิเศษ เราจึงอยากให้ทุกคนได้เข้าใจที่มาที่ไปของประเด็นนี้ เพื่อจะสามารถนำไปศึกษาเพิ่มเติมหรือต่อยอดความคิดของตัวเองกันได้ค่า
#ถ้วยอนามัยแฮปปี้ #ถ้วยอนามัย
#HappiCup #YourHappierPeriod
เขียนโดย โกมลปาณ